หลังจากรอกันมาอาทิตย์กว่าสำหรับงาน Video Game Awards 2011 ซึ่งผ่านไปแล้วเมื่อคืนนี้ โดยนอกจากจะได้รู้ว่าเกมส์ที่เราเล่นมาทั้งปีเกมส์ไหนได้รางวัลในสาขาใดไปบ้าง
แต่นอกเหนือจากนั้นงานนี้ยังเป็นที่ประกาศเกมส์ใหม่ๆอีกด้วย ซึ่งในปีนี้มีทั้งหมด 13 เกมส์ด้วยกัน และหนึ่งในนั้นคือเกมส์เอกซ์ครูซีฟของ PlayStation 3 ที่มาในชื่อว่า "The Last of Us"
โดยจะถูกพัฒนาโดยผู้สร้างซีรี่ย์ Uncharted และ Crash Bandicoot อย่างค่าย Naughty Dog ซึ่งเกมส์นี้จะอยู่ภายใต้การพัฒนาของทีมพัฒนากลุ่มที่สองของค่าย Naughty Dog
ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่มาประมาณ 2-3 ปีแล้ว ซึ่งเกมส์นี้เป็นเกมส์เดียวที่สามารถเทียบชั้นกับเกมส์ระดับแนวหน้าได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
เทรลเลอร์มาจากตัวเกมส์จริงๆครับ เพราะจะเป็นการนำระบบ Cinematic มาใช้ในเกมส์เช่นเดียวกับเกมส์ Uncharted
โดยรายละเอียดที่ออกมานั้นยังมีออกมาไม่มากนัก แต่ก็ได้รู้ในหลายๆอย่างสำคัญๆก็มีด้วยนะครับ โดยเท่าที่รู้ตอนนี้ก็คือตัวเอกของเกมส์คือ Joel และ Ellie ผู้รอดชีวิตจาก
เหตุการณ์มนุษย์กลายพันธุ์ โดยมุมมองของตัวละคร Joel นั้นจะเป็นผู้ชายอายุประมาณ 30 ปี เป็นผู้รอดชีวิตที่มีความเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญ ไม่กลัวสิ่งที่ต้องเผชิญเจอใดๆทั้งสิ้น
และตัวละครอีกคนหนึ่งก็คือ Ellie สาววัยรุ่นที่มีความรับผิดชอบและความกล้าหาญเกินอายุ ทั้งสองคนมีอาวุธไม่มากมีแค่ของทีีพอหาได้เช่น ปืนพก,มีดและปืนสไนเปอร์
ส่วนตัวซอมบี้อาจจะไม่เหมือนซอมบี้ที่เคยเจอในเกมส์อื่นๆเพราะจะเกิดจะโรคร้ายทำให้เกิดเชื้อโรคขึ้นในร่างกายทำให้มนุษย์ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และจะกลายเป็น
มนุษย์กลายพันธุ์ที่ไล่ล่าผู้รอดชีวิต
เนื้อเรื่องของเกมส์นี้จะเล่าถึงโลกเราในยุคนี้ถ้าเกิดเหตุการณ์ซอมบี้ครองเมืองเมื่อเราเป็นแค่ผู้รอดชีวิต โดยจะเป็นการผสมระหว่างเกมส์เอาชีวิตรอดและเกมส์แอ็คชั่น
เพื่อเล่ารเื่องราวอันเข้มข้นของเนื้อเรื่องเกมส์นี้เกี่ยวกับการขยายอณาเขตของซอมบี้โดยอ้างอิงสถานที่ในปัจจุบัน เมื่อทุกคนต้องละทิ้งเมืองที่เคยอยู่อาศัย ถูกทำร้าย
โดยธรรมชาติ และ คนที่รอดชีวิตจะต้องฆ่าหำ่หั่นกันเองเพื่ออาหาร,อาวุธและสิ่งของที่พวกเขาต้องใช้เพื่ออยู่รอด โดย Joel และ Ellie ต้องร่วมทีมกันเพื่อหาทางเอา
ชีวิตรอด พวกเขาต้องเดินตามเส้นทางของพวกเขาเพื่อหาผู้รอดชีวิตคนอื่นและเอาชีวิตรอดในดินแดนแห่งเสรีภาพ,สหัฐอเมริกา
ขอบคุณที่มาอย่างยิ่งจาก : ทีมข่าว JOKERGAMETH (คุณ kunggy )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น